วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2559

สัตว์เลี้ยงเป็นโรคไตได้ด้วยหรือ









สัตว์เลี้ยงเป็นโรคไตได้ด้วยหรือ






    ไตทำหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือด รักษาสมดุลของสารน้ำและแร่ธาตุในร่างกาย รวมถึงทำหน้าที่คล้ายต่อมไร้ท่อ ผลิตฮอร์โมนที่ควบคุมความดันเลือด และสร้างเม็ดเลือดแดงในร่างกาย สัตว์มีไตสองข้างเช่นเดียวกับมนุษย์ แต่ละข้างประกอบด้วยหน่วยไตเล็กๆ นับเป็นแสนๆ หน่วย เมื่อสัตว์มีอายุมากขึ้น หน่วยไตจะค่อยๆ เสื่อมและลดปริมาณลง หน่วยไตที่เสียหายแล้วร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาทดแทนใหม่ ส่วนที่ยังเหลืออยู่จะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อชดเชยหน่วยไตที่เสียไปแล้ว โดยปกติแล้วหากหน่วยไตเสียหายไม่เกิน 75% ไตส่วนที่เหลือยังสามารถทำงานชดเชยได้ ทำให้ระดับของครีเอตินีน (Creatinine) และยูเรีย (Urea) ในเลือด ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกการทำงานของไต ยังไม่พบความผิดปกติ แต่เมื่อหน่วยไตเกิดความเสียหายเกิน 75% แล้ว จึงเกิดภาวะไตวายขึ้น เมื่อตรวจเลือดและปัสสาวะก็จะพบความผิดปกติ
                โรคไตอาจเกิดจากหลายปัจจัยเสี่ยงด้วยกัน เช่น อายุมาก อาหาร พันธุ์สัตว์ที่มีแนวโน้มการเกิดความผิดปกติของไตตั้งแต่กำเนิด เช่น ชิสุ ชเนาส์เซอร์ รวมถึงพฤติกรรมตัวสัตว์เองที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น กินน้ำน้อย หรือชอบเลียกินน้ำไม่เลือกที่ เช่น ตามพื้นที่มีสารเคมี น้ำในกระถาง ต้นไม้ที่ใส่ปุ๋ย หรืออาศัยในบริเวณที่ใช้ยาฆ่าแมลง และสารที่เป็นพิษต่อไต เป็นต้น

ภาวะของโรคไตอาจแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะด้วยกันคือ

ระยะที่ 1. ภาวะที่ไตเสียหายมากกว่า 67% ระยะนี้เราจะเรียกสัตว์ว่าเป็นโรคไต แต่ยังไม่ถือว่าเป็นไตวายเรื้อรัง สัตว์จะไม่แสดงความผิดปกติใดๆ อาจแสดงอาการกินน้ำเยอะ ปัสสาวะเยอะ ชอบปัสสาวะตอนกลางคืน การตรวจเช็คเลือดค่าครีเอตินีน (Creatinine) และยูเรีย (Urea) จะไม่พบความผิดปกติ แต่หากทำการตรวจปัสสาวะจะพบว่า ความถ่วงจำเพาะต่ำกว่าปกติ รวมทั้งมักตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ ดังนั้นหากสัตว์เลี้ยงมีอายุมากกว่า 6 ปี จึงควรตรวจปัสสาวะร่วมกับการตรวจสุขภาพประจำปีด้วย หากพบว่าสัตว์อยู่ในระยะนี้เราสามารถช่วยชะลอความเสียหายของไตให้ช้าลงได้ ด้วยการให้อาหารที่มีการจำกัดโปรตีนและฟอสฟอรัส ซึ่งมีจำหน่ายในรูปแบบของอาหารสำเร็จรูปสำหรับสัตว์อายุ มาก เช่น อาหารโรคไต หรืออาหารโรคหัวใจ เป็นต้น

ระยะที่ 2. ภาวะที่ไตเสียหายมากกว่า 75% ระยะนี้จึงเรียกว่าเป็นไตวายเรื้อรัง สัตว์บางตัวอาจไม่แสดงอาการผิดปกติให้เห็นชัดเจน แต่หากตรวจเลือดวัดระดับการทำงานของไตครีเอตินีน (Creatinine) และ ระดับยูเรีย (Urea) ซึ่งบ่งบอกถึงปริมาณของเสียที่มีอยู่ในเลือด พร้อมกับตรวจปัสสาวะจะพบความผิดปกติ ความรุนแรงของอาการจะขึ้นกับความสามารถของไตในการขับเอาของเสียออก หากเกิดการคั่งในเลือดจนเกินระดับความทนทานของสัตว์ สัตว์จะแสดงอาการซึม เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด อาเจียน และมีถ่ายเหลว

ระยะที่ 3. ระยะสุดท้าย อาการจะรุนแรงมากขึ้น อาเจียนบ่อยครั้ง ถ่ายเหลวดำคล้ำ กลิ่นปากจะคล้ายกับกลิ่นของปัสสาวะ มีแผลหลุมในปาก กินอาหารไม่ได้ หมดแรง บางตัวหากเกิดการคั่งของของเสียในเลือดมากๆ จะเกิดอาการชัก ทุรนทุราย หมดสติ และ เสียชีวิตในที่สุด
                ภาวะแทรกซ้อนของโรคไตที่พบได้บ่อย ได้แก่ ภาวะร่างกายเป็นกรดมากกว่าปกติ ภาวะความดันโลหิตสูง ภาวะโลหิตจาง ภาวะกระดูกพรุน ภาวะของเสียคั่งในเลือด




บทความดีๆจาก  สัตวแพทย์หญิงอาภาพร  เจตนาวณิชย์ (คุณหมอพร)



โรงพยาบาลเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา

ติดต่อสอบถาม 

Fanpage : petfriendsHospital


โทร 038-773007 / 089-2448865
Fax : 038-773339
IG : Petfriends_sriracha
Line@ : @petfriends
E-mail : petfriends2010@hotmail.com
ติดต่อเรา 1/16 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110


วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2559

แก้ปัญหาสุนัขขับถ่ายไม่เป็นที่

วิธีฝึกการขับถ่ายให้สุนัข

เจ้าของหลายๆท่านคงประสบกับปัญหาสุนัขขับถ่ายไม่เป็นที่  ขับถ่ายเรี่ยราด  ทำให้บ้านไม่สะอาด วันนี้เรามีเทคนิควิธีการฝึกสุนัขมาแนะนำกันค่ะ

การฝึกสุนัขเริ่มได้ตั้งแต่อายุ  1.5-2 เดือน  ช่วงนี้เด็กๆ ยังไม่มีพื้นที่ขับถ่ายเป็นของตัวเอง เราสามารถเลือกสถานที่ขับถ่ายให้เค้าได้ค่ะ ว่าอยากให้เค้าขับถ่ายในห้องน้ำ ในบ้าน หรือนอกบ้าน  

โดยปกติแล้วลูกสุนัขจะขับถ่ายช่วงเวลาหลังตื่นนอน หลังทานอาหาร หลังวิ่งเล่น ไม่เกิน 15-20 นาที  
เพราะฉะนั้นทั้ง 3 ช่วงเวลานี้เจ้าของจะต้องพาเด็กไปขับถ่ายยังสถานที่ที่ได้เลือกไว้  ระหว่างที่พาไปอาจจะออกคำสั่งซ้ำๆ เช่น น้องดำอึ ไปถ่าย เป็นต้น


หลังจากที่เค้าขับถ่ายในที่ที่เราเลือกไว้แล้ว เจ้าของสามารถให้รางวัลเป็นขนม ของกินอื่นๆ หรือลูบหัวกล่าวชมเพื่อให้เค้ารู้สึกดี  ซึ่งการให้รางวัลเหล่านี้ต้องทำทันทีนะคะ  ถ้าให้ช้าไป อย่างเช่น พาเค้ากลับเข้ามาในบ้านแล้วเพิ่งให้รางวัล  เค้าจะเข้าใจผิด คิดว่ากลับมาบ้านแล้วจะได้กินขนม  ต่อไปเค้าอาจจะกลับมาขับถ่ายในบ้านแทนได้นะ  


นอกจากนั้นถ้าหากเห็นท่าทางว่าเด็กน้อยของเรากำลังจะขับถ่าย  สังเกตุได้จากพฤติกรรมเดินดมพื้น เดินวนเป็นวงกลม นั่นเค้ากำลังบอกเราว่าหนูจะอึแล้วนะ  ส่วนปัสสาวะจะสังเกตุยากหน่อย  สุนัขบางตัวจะดมๆ หาพื้นที่ก่อน บางตัวก็นั่ง หรือยกขาแล้วปล่อยออกมาเลย ถ้าเห็นพฤติกรรมเหล่านี้  หรือน้องกำลังขับถ่ายอยู่ต้องรีบนำน้องไปยังสถานที่ที่เราเลือกให้เค้าขับถ่ายเลยค่ะ ส่วนบริเวณเดิมที่เค้าขับถ่ายไว้ให้ทำความสะอาดและกำจัดกลิ่นออกให้หมดเพื่อไม่ให้เค้ากลับมาขับถ่ายที่เดิม     

วิธีการฝึกเหล่านี้เป็นการฝึกง่ายๆ แต่เราต้องทำสม่ำเสมอ นะคะเพื่อให้เค้าปฏิบัติจนเป็นนิสัย  เจ้าของต้องมีความอดทนนิดนึง เพื่อให้สัตว์เลี้ยงของเราขับถ่ายได้อย่างเป็นที่เป็นทาง  เพื่อความสุขของทุกคนในบ้านด้วยค่ะ

บทความดีๆจาก  สัตวแพทย์หญิงเศรษฐวรรณ ทองเสน (คุณหมอเหมียว)



โรงพยาบาลเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา

ติดต่อสอบถาม 

Fanpage : petfriendsHospital


โทร 038-773007 / 089-2448865
Fax : 038-773339
IG : Petfriends_sriracha
Line@ : @petfriends
E-mail : petfriends2010@hotmail.com
ติดต่อเรา 1/16 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110

ห้องผ่าตัด ไม่ใช่แค่ห้องๆหนึ่ง

ห้องผ่าตัด


การผ่าตัดนี่เป็นการกระทำที่เสี่ยงมากสำหรับการติดเชื้อ


 เพราะเราจะเปิดอวัยวะภายในซึ่งปกติจะถูกปกป้องโดยร่างกายเพื่อไม่ให้สัมผัสกับอากาศภายนอกที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคมากมาย และทำให้อาจมีโอกาสติดเชื้อเข้ากระแสเลือดและลุกลามจนเกิดอันตรายรุนแรงได้ 

ซึ่งคุณหมอทุกท่านจะให้ความสำคัญกับ  Aseptic technique  (เทคนิคปลอดเชื้อ) นี้เป็นอย่างมาก ดังนั้น อุปกรณ์ทุกชิ้นจึงต้องสะอาดและปลอดเชื้อไม่เว้นแม่แต่ชุดที่สวมใส่ในการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแทรกซ้อนเข้าสู่ร่างกายสัตว์ 


โรงพยาบาลเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา

ติดต่อสอบถาม 
Fanpage : petfriendsHospital
โทร 038-773007 / 089-2448865
Fax : 038-773339
IG : Petfriends_sriracha
Line@ : @petfriends
E-mail : petfriends2010@hotmail.com
ติดต่อเรา 1/16 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หินปูนในสุนัขและแมวนั้นสำคัญไฉน

หินปูนในสุนัขและแมวนั้นสำคัญไฉน


นอกจากการดูแลสุขภาพทั่วๆไปแล้ว สุขภาพในช่องปากของน้องหมาน้องแมวนั้นถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจละเลยได้ค่ะ 

เพราะถ้าหากช่องปากของน้องหมาน้องแมวไม่ได้รับการดูแลก็จะก่อให้เกิด  "หินปูน"  ตามมา ซึ่งการสะสมตัวของหินปูนนั้นจะส่งผลเสียต่างๆเช่น  มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เหงือกอักเสบ เหงือกร่น หากเป็นมากๆก็จะทำให้ฟันคลอนและโยกได้ค่ะ เมื่อน้องหมาน้องแมวมีปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น เค้าก็จะเจ็บปากมาก เรียกได้ว่าทรมานกันเลยทีเดียว เกิดอาการเครียด เคี้ยวอาหารแข็งๆไม่ได้ บางตัวถึงขั้นไม่ยอมทานอาหารเลยนะคะ  ส่งผลเสียต่อสุขภาพของร่างกายตามมาอีกด้วย 

ดั้งนั้น

เราควรดูแลสุขภาพช่องปากเป็นประจำ ฝึกการแปรงฟันให้น้องหมาน้องแมวตั้งแต่เด็กๆ อาจเริ่มด้วยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นถูเหงือกและฟัน หรือใช้แปรงสีฟันที่สอดนิ้วของเด็ก(คน)ก่อนก็ได้ค่ะเพื่อให้เค้าชินกับการแปรงฟัน ควรมีอุปกรณ์เสริมที่ช่วยในการขัดฟัน เช่น ของเล่น ให้กัดแทะ นอกจากนี้ยังต้องหมั่นสังเกตสุขภาพของช่องปากในน้องหมาน้องแมวด้วยนะคะ ซึ่งเจ้าของสามารถทำเองได้ที่บ้านไม่ยาก โดยการเปิดปากสังเกตเหงือก และคราบหินปูนเป็นประจำ หากมีหินปูนเกาะขึ้นให้รีบพามาพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจและทำการขูดหินปูนออก ก่อนจะกลายเป็นปัญหาใหญ่นะคะ โดยความถี่ในการขูดหินปูนนั้นขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยที่ทำให้เกิดการสะสมของคราบหินปูน เช่น อาหารที่กิน พฤติกรรมการดูแลฟัน กล่าวคือ ถ้าน้องหมาตัวนั้นกินแต่อาหารเปียกไม่ยอมแปรงฟัน ก็จะมีการสะสมของคราบหินปูนเร็วกว่าน้องหมาที่กินอาหารเม็ด หรือยอมแปรงฟัน 

อย่างไรก็ตามควรพาน้องหมามาตรวจสุขภาพช่องปากกับสัตวแพทย์อย่างน้องปีละ ครั้งนะคะ เพียงเท่านี้น้องหมาก็จะมีสุขภาพฟันและเหงือกที่ดี แถมยังไร้กลิ่นปากมากวนใจแล้วค่ะ 


ด้วยความปรารถนาดีจาก : สพ.ญ.ชุติมันต์ ลิ้มสราญรมย์ (คุณหมอกิ๊ฟท์)


โรงพยาบาลเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา

ติดต่อสอบถาม 
โทร 038-773007 / 089-2448865
Fax : 038-773339
IG : Petfriends_sriracha
Line@ : @petfriends
E-mail : petfriends2010@hotmail.com
ติดต่อเรา 1/16 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110