วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2561

โรคลมแดด (Heat Stroke)


ปัจจุบันโลกร้อนนั้นส่งผลกระทบมากมายตามข่าวที่เราทราบกันอยู่ทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงนี้ประเทศไทยตรงกับฤดูร้อน แม้จะมีฝนมาช่วยคลายความร้อนลงได้บ้าง แต่ในระหว่างวันที่ร้อนจัดๆ นั้นอุณหภูมิสูงมากจนเป็นเหตุให้มีการเสียชีวิตจากความร้อนในคนมาแล้ว ทราบหรือไม่ว่าความร้อนก็ทำให้สัตว์เลี้ยงของเราเสียชีวิตได้เช่นกัน นั่นคือ โรคลมแดด หรือ Heat stroke นั่นเอง

Heat stroke  คืออะไร

ภาวะที่เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายของสัตว์มีอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมักพบว่าอุณหภูมิในร่างกายสัตว์มักสูงกว่า 106oF หรือมากกว่า 41oC (อุณหภูมิปกติในสุนัขประมาณ 100-102.5 oF) โดยมากมักพบในช่วงที่มีอากาศร้อน โดยเฉพาะภายหลังการออกกำลังกาย วิ่งเล่น ถูกจำกัดในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดี เช่น รถยนต์ การให้น้ำกับสัตว์ไม่เพียงพอในช่วงที่อากาศร้อนจัด หรือโรคบางอย่างที่มีผลรบกวนต่อการระบายความร้อนของสัตว์ เช่น โรคหัวใจ ภาวะอัมพาตของกล่องเสียง โรคทางเดินหายใจ โรคระบบประสาท เป็นต้น โดยสุนัขพันธุ์หน้าสั้น เช่น บูลด็อก ปั๊ก, สุนัขพันธุ์ขนยาวหรือขนสีดำ, สุนัขพันธุ์ที่มีขนหนาแน่น เช่น ไซบีเรียนฮัสกี้, สุนัขอ้วน ซึ่งสุนัขเหล่านี้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิด Heat stroke มากกว่าในสุนัขพันธุ์อื่นๆ นอกจากนี้สัตว์อื่นๆ ก็สามารถเกิด Heat stroke เช่น แมว หนู กระต่าย เป็นต้น

เมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงมากจะเป็นอันตรายต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย อวัยวะที่ได้รับผลกระทบได้แก่ ระบบประสาท (เซลล์ประสาทถูกทำลาย เลือดออกที่สมอง) ระบบหัวใจและหลอดเลือด (หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและตายในที่สุด) ระบบทางเดินอาหาร (เยื่อบุลำไส้ขาดเลือดและเป็นแผล แบคทีเรียเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นจนทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด) ระบบตับและท่อน้ำดี (เซลล์ตับตาย) ระบบขับถ่ายปัสสาวะ (ไตวายเฉียบพลัน) ระบบเลือด น้ำเหลือง และภูมิคุ้มกัน (เลือดเข้มข้นเกินไป เกล็ดเลือดต่ำ และทำให้เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด) ระบบกล้ามเนื้อ (เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อ)

อาการที่พบได้แก่ หอบหายใจเร็วมากผิดปกติ หัวใจเต้นเร็ว น้ำลายไหลมาก สีเหงือกแดงเข้มซึ่งเป็นผลจากการที่หลอดเลือดฝอยในร่างกายขยายตัวเพื่อช่วยในการระบายความร้อนออกจากร่างกาย อุณหภูมิร่างกายจะสูงมากกว่า 41oC บางตัวจะพบว่าเดินโซเซ ทรงตัวไม่อยู่ ในรายที่มีความรุนแรงอาจจะชักและช็อคได้ในเวลาต่อมา ในขณะเดียวกันอาจพบจุดเลือดออกหรือในรายที่รุนแรงจะพบเป็นจ้ำเลือดที่ผิวหนัง เยื่อบุในช่องปาก รวมถึงเลือดออกในทางเดินอาหารจากภาวะที่มีการกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดที่ผิดปกติไป ซึ่งจะพบว่ามีอาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายอุจจาระเป็นเลือด และเสียชีวิตในเวลาต่อมาได้ 

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

1. ควรนำสัตว์เข้าที่ร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก
2. ปลดปลอกคอและถอดเสื้อออก
3. ช่วยลดอุณหภูมิของสุนัขลง ซึ่งอาจมีตั้งแต่การเช็ดตัวหรือราดด้วยน้ำเย็น และประคบเย็นโดยเฉพาะบริเวณรักแร้ ขาหนีบ อุ้งเท้า แต่ไม่แนะนำให้ใช้น้ำแข็งหรือน้ำที่เย็นจัดๆ เพราะจะทำให้หลอดเลือดที่ผิวหนังหดตัว การระบายความร้อนทางผิวหนังจะเกิดขึ้นได้น้อยหรือช้าลง (หลอดเลือดที่ผิวหนังจะขยายตัวมากกว่าในภาวะปกติเมื่อต้องการระบายความร้อนในร่างกาย)
4. ระหว่างที่ทำการลดอุณหภูมิให้รีบนำสัตว์ส่งโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกใกล้บ้านเพื่อให้สัตวแพทย์ทำการตรวจรักษาต่อไป เช่น
- การลดอุณหภูมิอย่างต่อเนื่อง
- การให้น้ำเกลือเพื่อช่วยลดความร้อนภายในร่างกายและเพื่อกระตุ้นให้มีการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่ไต
- การให้ออกซิเจน
- การให้ยาระงับการชักในรายที่เกิดการชัก
และการรักษาอื่นๆ ตามอาการ เพื่อทำให้อวัยวะต่างๆ กลับมาทำหน้าที่ได้ตามปกติมากที่สุด และควรติดตามอาการต่อเนื่องอย่างน้อย 3 วันเพื่อประเมินการทำงานของทุกระบบในร่างกายที่ได้รับผลกระทบจาก Heat stroke

เลือกใช้บริการได้ ทั้ง3สาขาใกล้บ้านคุณ

โรงพยาบาลเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา(เปิด24ชั่วโมง) โทร. 089-2448865
คลินิกเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา สาขาหนองยายบู่ ( เปิด 9.00-21.00 น.) โทร. 092-0124002
คลินิกเพื่อนสัตว์เลี้ยงบางแสน  (เปิด9.00-20.00น.) โทร.098-7165698

ติดตามข้อมูลข่าวสาร
Line ID : @petfriends
You Tube : PetFriends Channal
E-mail : petfriends2010@hotmail.com
 1/16 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2561

เมษาหน้าร้อน สัตว์ก็ร้อน

ในช่วงเดือนที่เรียกได้ว่าร้อนที่สุดในรอบปี นั่นก็คือช่วงเดือนเมษายน ทำให้ช่วงนี้ นอกจากคนจะร้อน อารมณ์ร้อน หมาแมวก็ร้อนนะจ๊ะ

เพราะเมื่ออากาศร้อนมากๆ ความร้อนจะสะสมอยู่ในร่างกายมากขึ้น ในสุนัขและแมวนั้น เค้าจะไม่มีต่อมเหงื่อเพื่อระบายความร้อนออกมาในรูปแบบน้ำเหงื่อได้เหมือนในคน  ทำให้เรามักจะสังเกตเห็นน้องหมาพยายามระบายความร้อนออกโดยการหอบ อ้าปากหายใจเพิ่ม  

ซึ่งโดยปกติอุณหภูมิของร่างกายน้องหมาจะประมาณ 100-102.5 องศาฟาเรนไฮต์ ถ้าเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นถึง 106 องศาฟาเรนไฮต์ จะทำให้สมองเกิดความเสียหาย อวัยวะต่างๆ ล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด เป็นอาการความร้อนสะสมจนเกิดภาวะช็อคจากความร้อน หรือที่เราคุ้นหูกันดีคือ “ Heat stroke ”
ดังนั้นหากพบว่าน้องหมาแสดงอาการดังกล่าว ควรจะรีบลดอุณหภูมิให้เค้า เพื่อช่วยลดความเสียหายต่ออวัยวะต่างๆ และเพิ่มโอกาสรอดให้กับน้องหมา

วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นคือ 

ต้องรีบย้ายที่อยู่ของสัตว์ให้เย็นขึ้น มีลมพัดโชยตลอด อาบน้ำหรือให้เช็ดตัวด้วยน้ำเย็นแต่ไม่เย็นจัด แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลสัตว์ให้เร็วที่สุด  สัตวแพทย์จะทำการลดอุณหภูมิลงให้อยู่ในระดับปกติ ไม่ให้ต่ำเกินไป และรวมกับการให้น้ำเกลือเพื่อแก้ไขภาวะแห้งน้ำ

สิ่งที่ต้องระวังคือ 

 สัตว์ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ อ้วน อายุมาก หรือมีปัญหาทางเดินหายใจ ควรให้อยู่ในที่เย็นสบาย และต้องมีน้ำให้กินอย่างเพียงพอในแต่ละวัน รวมถึงสัตว์ปกติด้วย
ไม่นำสุนัขไว้ในรถเด็ดขาด  เพราะในรถ อุณหภูมิสูงขึ้นรวดเร็ว  จะทำให้เกิดภาวะช็อคจากความร้อนได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญอย่าปล่อยให้สุนัขหรือแมวตากแดดเป็นเวลานานเกินไปจะอันตรายมากครับ 

เดี๋ยวรอบหน้า จะมาอธิบายเรื่องโรคลมแดด(Heat stroke) ให้ฟังกันนะคะ

บทความดีๆจาก
คุณหมอต๊อบ (น.สพ.พนธกร กังวานฤทธิไกร)

เลือกใช้บริการได้ ทั้ง3สาขาใกล้บ้านคุณ
โรงพยาบาลเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา(เปิด24ชั่วโมง) โทร. 089-2448865
คลินิกเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา สาขาหนองยายบู่ ( เปิด 9.00-21.00 น.) โทร. 092-0124002
คลินิกเพื่อนสัตว์เลี้ยงบางแสน  (เปิด9.00-20.00น.) โทร.098-7165698

ติดตามข้อมูลข่าวสาร
Line ID : @petfriends
You Tube : PetFriends Channal
E-mail : petfriends2010@hotmail.com
 1/16 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561

ทำไม น้องหมาชอบกินอึ

ทำไม น้องหมาชอบกินอึ


คุณเคยสงสัยไหมคะ ว่าทำไม น้องหมาชอบกินอึตัวเอง ที่สำคัญ กินแล้วก็มาจุ๊บๆเจ้าของสะด้วย 55
บทความวันนี้จะไขข้อข้องใจให้ค่ะ

การกินอึ (Coprophagia)  เป็นภาวะที่ไม่ได้มาจากนิสัยใจคอเพียงอย่างเดียว แต่อาจจะมาจากภาวะทางการเจ็บป่วยที่แอบแฝงอยู่ ดังนั้นหากพบว่าน้องหมาเราชอบกินอึตัวเอง ก็อย่าละเลยที่จะพาน้องไปพบคุณหมอนะคะ

อาการที่แสดงออกก็ตามชื่อเลย น้องหมาจะกินอึตัวเอง หรือกินอึของหมาตัวอื่น บางตัวก็เดินกินอึของน้องแมวเหมียว จนบางครั้งอาจพบว่า น้องหมาเราอาเจียนออกมาเป็นอึเลยทีเดียว


การกินอึของน้องหมานั้น แบ่งเป็น
3 แบบ คือ


1.       กินอึตัวเองเท่านั้น 
2.       กินอึของคนอื่นแต่เป็น species เดียวกับตัว เช่นกินอึหมาด้วยกันไม่กินอึสัตว์อื่น
3.       กินอึของสัตว์ต่าง species เช่น อึแมว หนู กระต่าย


สาเหตุของการกินอึนั้นมีด้วยกันหลายอย่าง เช่น


- มีพยาธิในลำไส้มากมายคอยแย่งอาหาร น้องหมาก็จะขาดอาหารโดยปริยาย 
- โรคขาดเอ็นไซม์จากตับอ่อน ทำให้อาหารที่กินเข้าไปย่อยไม่ได้ จึงดูดซึมไม่ได้เลยขาดสารอาหาร
- ทางเดินอาหารไม่ดูดซึมสารอาหาร อาจจะเกิดจากแพ้โปรตีนที่กินหรือระบบท่อน้ำเหลืองที่ไส้มีปัญหา
- ได้รับอาหารน้อยเกินไป
- ขาดสารอาหาร
- ติดใจรสชาติของอึแมว
- กินอึลูกตัวเอง (เป็นสัญชาตญาณเพศแม่ เกิดขึ้นตั้งแต่ลูกหมาแรกเกิดถึง 3.5 สัปดาห์)
- ได้รับยาบางตัวที่กินแล้วหิวจัด
- ความชอบส่วนตัว เช่น ลูกหมาที่เลี้ยงเยอะเกิน กระวนกระวายจัด เบื่อหน่ายระหว่างวัน

ที่นี้เราต้องมาหากันว่า เด็กๆที่บ้านเรานั้น กินอึ จากสาเหตุอะไรซ่อนอยู่ หรือเกิดจากนิสัยใจคอของเค้าเอง เช่น


- ดูประวัติว่ากินยาอะไรอยู่ตอนนี้
- ตรวจร่างกายว่าเข้าเค้าเป็นโรคใดหรือเปล่าที่ทำให้กินแหลก
- ดูอาหารที่ให้ว่าคุณภาพดีไหม
- ดูประวัติการให้อาหารของคุณกะน้องหมา ว่าให้วันละกี่รอบ มีกิจกรรมหนักไหม เช่นให้อาหารวันละมื้อแต่น้องหมาวิ่งรอบสนามบอล 10 รอบ วันละ 3 หน เค้าก็คงอาหารไม่พอ
- ตรวจเลือดเพื่อดูว่ามีแนวโน้มเป็นโรคขาดฮอร์โมนหรือเอ็นไซม์ไหม
- ตรวจอึว่ามีไขมันออกมากับอึไหม  มีพยาธิไหม
- ตรวจปัสสาวะ ว่ามีโปรตีนรั่วไหม  มีน้ำตาลหรือไม่

เมื่อทราบแล้วน้องหมาเรามีสาเหตุมาจากอะไรก็รักษาไปตามเหตุนั้นค่ะ
หากเกิดจากจิตใจก็จะลำบากหน่อย เจ้าของเองคงต้องหาเวลาอยู่เล่นกะเขาให้มากขึ้น ใส่ใจเขามากขึ้น
แต่ถ้าหากเป็นความชอบส่วนตัวของเขาอันนี้ลำบากหนักเลยค่ะ เราต้องจัดการจริงๆ ซึ่งมีหลายวิธีที่ช่วยได้ สามารถปรึกษาคุณหมอประจำตัวน้องหมาของคุณได้เลยค่ะ

อย่างไรก็ดีการกินอึไม่ใช่สิ่งที่สวยงาม และหากคุณไม่เคยเก็บอึหมาเลย แต่ว่าไม่เคยเห็นอึหมาเลยก็อย่าคิดว่าข้างบ้านใจดีมาเดินเก็บอึหมาให้ ขอให้นึกซะว่าหมาคุณน่าจะเริ่มมีปัญหาแล้วค่ะ












บทความจาก 

สัตวแพทย์หญิงอาภาพร เจตนาวณิชย์



โรงพยาบาลเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา(เปิด24ชั่วโมง) โทร. 089-2448865

คลินิกเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา สาขาหนองยายบู่ ( เปิด 9.00-21.00 น.) โทร. 092-0124002

คลินิกเพื่อนสัตว์เลี้ยงบางแสน  (เปิด9.00-20.00น.โทร.098-7165698



ติดตามข้อมูลข่าวสาร
Fanpage : petfriendsHospital
Line ID : @petfriends
You Tube : PetFriends Channal
E-mail : petfriends2010@hotmail.com
 1/16 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110

วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2561

แมวกินหญ้า เพราะอะไร ??


แมวจ๋า...แมวกินหญ้าเพราะอะไร



เชื่อว่าคุณคงต้องเคยเห็นสุนัขและแมวกินหญ้า แล้วคุณรู้ไหมว่า สาเหตุจริงๆ ที่น้องแมวกินหญ้าเพื่อวัตถุประสงค์ใดกันแน่
วันนี้หมอจะมาเล่าเรื่องการกินหญ้าในแมวให้ฟัง ว่ามันเป็นเหตุผลที่ต่างจากในหมาโดยสิ้นเชิง  

ซึ่งน้องแมวเป็นสัตว์จำพวกกินเนื้อ ดังนั้นหลังกินหญ้าเข้าไปก็จะขย้อนออกหมด เพราะไม่มีเอนไซม์ช่วยในการย่อย


การกินหญ้าของแมวเกิดได้จากหลายๆ สาเหตุ ดังนี้

1. เชื่อว่าเหมียวนั้นต้องการเคลียร์ทางเดินอาหารให้โล่งเพราะเวลาจับเหยื่อพวกนก หนู  กระรอกมันมีขน อาจจะติดคอและระคายเคืองเหมียวได้
2. มันชุ่มน้ำ (juice) ในหญ้าจะอุดมไปด้วยกรด folic คล้ายน้ำนมแม่ ซึ่งจำเป็นต้อการสร้าง hemoglobin  ดังนั้น เหมียวก็พึงใจที่จะกิน
3. ยาระบาย (luxative) มันจะช่วยพาเศษขนที่เขากินหรือเลียเข้าไปออกมา โดยอึที่ออกมาก็อาจจะนุ่ม ดูชุ่มน้ำหน่อยๆ
4. กำจัดก้อนขน (hairball) แต่หากคุณเลี้ยงแมวแล้วไม่รู้จักคำว่า  hairball แสดงว่าคุณเชยมาก การกินหญ้าจะช่วยให้เขาขย้อนก้อนเหล่านี้ออกมา ทำให้โล่งสบาย
5. พฤติกรรมเจ้าระเบียบ (compulsive behavior) ในแมวจะมีพฤติกรรมที่เรียกว่า obsessive compulsive disorder (OCD) คือกินสิ่งแปลกหมอเชื่อว่า คุณน่าจะเคยเห็นเช่น กินเสื้อ กินหรือแทะพรม ซึ่งนั่นก็รวมถึงหญ้าด้วย แบบนี้ต้องปรึกษาหมอแล้วนะคะ
6. ขาดสารอาหาร (nutrition deficiency) เราเชื่อว่าอาจจะมาจากขาดสารอาหารบางอย่างซึ่งเหมียวพยายามหาทดแทนโดยการกินหญ้า ในหญ้าจะมีวิตามินหลายอย่างที่เหมียวอยากได้
7. เพื่อความบันเทิง (entertainment) แมวจะชอบวิ่ง กลิ้งเกลือกกะหญ้า เกลือกไปมาก็กินมันซะเลย เป็นความสุขอย่างหนึ่ง
           
ดังนั้นหากมีคนกล่าวว่าแมวกินหญ้าคือแมวป่วย เราอาจจะเถียงกันหัวชนฝาเลยนะ อาจจะใช่หรือไม่ใช่อาการป่วย เพราะเหมียวปกติก็กินหญ้าได้เช่นกันค่ะ ... แล้วเหมียวคุณล่ะ กินหญ้าบ่อยแค่ไหน



บทความจาก 

สัตวแพทย์หญิงอาภาพร เจตนาวณิชย์


โรงพยาบาลเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา โทร. 089-2448865

คลินิกเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา สาขาหนองยายบู่ ( เปิด 9.00-21.00 น.โทร. 092-0124002

คลินิกเพื่อนสัตว์เลี้ยงบางแสน  (เปิด9.00-20.00น.โทร.098-7165698



ติดตามข้อมูลข่าวสาร
Fanpage : petfriendsHospital
Line ID : @petfriends


E-mail : petfriends2010@hotmail.com
 1/16 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110

วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561

พิษสุนัขบ้า...คร่าชีวิต



วันนี้แอดมินมีบทความดีๆที่จะแนะนำให้รู้จักกับโรคนี้ เพื่อป้องกันก่อนจะสายเกินแก้

โรคพิษสุนัขบ้า หรือ โรคกลัวน้ำ

เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เรบีส์ไวรัส ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกระสุนปืน โดยจะอยู่เฉพาะในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตเท่านั้น เมื่อออกนอกร่างกายจะมีชีวิตได้ไม่นาน ถูกทำลายได้ง่ายเมื่อถูกความร้อน แสงแดด หรือในสภาพแห้งแล้ง ดังนั้นจึงสามารถพบโรคนี้ได้ทุกฤดูกาลเนื่องจากเป็นเชื้อไวรัส ไม่ได้เกิดเนื่องจากความเครียดเพราะความร้อนอย่างที่หลายๆคนเข้าใจนะคะ

พิษสุนัขบ้า เกิดเฉพาะสุนัขใช่ไหม?? ชื่อก็บอก

จริงๆแล้วโรคพิษสุนัขบ้าไม่ได้เกิดเฉพาะในสุนัขเท่านั้นนะคะ แต่สัตว์เลือดอุ่นทุกชนิด โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น วัว ควาย ม้า หมู ลิง ชะนี กระรอก กระแต เสือ ค้างคาว คน ฯลฯ
ในไทยนั้นสัตว์ที่พบว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้า มากที่สุดคือ สุนัข (96 % ของจำนวนที่พบเชื้อจากการวินิจฉัยในห้องปฏิบัติการ) รองลงมาคือ แมว (3%)

การติดต่อของโรคพิษสุนัขบ้า

ในสัตว์ มักติดโดยการกัดกันและได้รับเชื้อไวรัสที่อยู่ในน้ำลายสัตว์ เข้าทางบาดแผลที่กัดกัน
ในคน เชื้อเข้าทางบาดแผลที่ถูกกัด ข่วน หรือถูกเลียบริเวณบาดแผลที่มีอยู่เดิม หรือได้รับเชื้อเข้าทางเยื่อตา เยื่อปาก การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อกระจกตา และอาจพบว่าติดเชื้อจากการหายใจ (น้อยมาก)

อาการของโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัข

แบ่งได้เป็น 2 แบบ
1. แบบดุร้าย (แสดงอาการชัดเจนและพบบ่อย)
2. แบบซึม (อาการไม่ชัดเจน)

ระยะฟักตัวสามารถพบได้ตั้งแต่ 10 วันจนถึง 6 เดือน แต่พบบ่อยในระยะ 3-8 สัปดาห์

อาการของโรคมี 3 ระยะ

1. ระยะอาการเริ่มแรก สุนัขจะมีนิสัยแปลกไปจากเดิม ตัวที่เคยขลาดกลัวจะเข้ามาคลอเคลีย ตัวที่เคยเชื่องชอบเล่น จะหงุดหงิด หลบไปตามมุมมืด เงียบ กินอาหารและน้ำน้อยลง ระยะนี้มีอาการ 2 - 3 วัน จะเข้าสู่ระยะที่ 2
2. ระยะตื่นเต้นซึ่งจะมีอาการทางประสาท มีความรู้สึกไวกว่าปกติ กระวนกระวาย หงุดหงิด ไม่อยู่นิ่ง ม่านตาขยาย กัดแทะสิ่งของ ตัวแข็ง ขากรรไกรแข็ง ปากอ้า ลิ้นห้อย น้ำลายไหล (บางคนจึงเรียกโรคนี้ว่าโรคกลัวน้ำ) บางตัววิ่งพล่านไปทั่ว เมื่อพบสัตว์หรือคนขวางหน้าจะกัด ส่งเสียงเห่าหอน ในระยะที่แสดงอาการแบบซึมอาจไม่แสดงอาการเช่นนี้ แต่เมื่อถูกรบกวนอาจกัด ต่อมากล้ามเนื้อจะเริ่มอ่อนแรงลง ทรงตัวไม่ได้ ล้มแล้วลุกไม่ได้ บางตัวชักกระตุก อาการระยะนี้พบได้ 1 - 7 วัน จึงจะเข้าระยะสุดท้าย
3. ระยะอัมพาต เกิดอาการอัมพาตลามทั้งตัว เริ่มจากขาหลัง ต่อมากล้ามเนื้อคอจะเป็นอัมพาต กลืนอาหารไม่ได้ ระบบหายใจล้มเหลวและตายในที่สุด รวมระยะเวลาเริ่มแสดงอาการจนเสียชีวิตประมาณ 10 วัน

อาการของโรคพิษสุนัขบ้าในแมว

ในระยะที่มีอาการชัดเจน แบ่งได้เป็น 3 ระยะ เช่นกัน คือ
1. ระยะอาการนำ มีอาการหงุดหงิด นิสัยเปลี่ยนไป ชอบหลบซุกในที่มืด ระยะนี้มักสั้นไม่เกิน 1 วัน
2. ระยะตื่นเต้น แสดงอาการดุร้าย กัด หรือข่วนคนหรือสัตว์ที่เข้ามาใกล้ กล้ามเนื้อสั่น น้ำลายไหล กลืนลำบาก ระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 2 - 4 วัน ก็จะเข้าสู่ระยะสุดท้าย
3. ระยะอัมพาต โดยเริ่มเป็นอัมพาตจากขาหลังแล้วลามมายังลำตัว ขาหน้าและหัว จนทั่วตัวอย่างรวดเร็วและเสียชีวิตในที่สุด
แต่บางครั้งอาการในแมวมักไม่ชัดเจน อาจเป็นแบบซึม มีระยะตื่นเต้นสั้นมาก หรือไม่แสดงอาการเลย โดยพบว่ากินอาหารและน้ำลำบาก แล้วเป็นอัมพาตลามไปทั่วตัว ตายในเวลา  3 - 4 วัน หลังจากเริ่มมีอาการก็เป็นได้

โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่มีอันตรายร้ายแรงและไม่มีทางรักษา ทำให้คนหรือสัตว์ที่ป่วยด้วยโรคนี้เสียชีวิตทุกราย แต่สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เลี้ยงเป็นประจำปีละหนึ่งครั้ง สำหรับผู้ที่ถูกสุนัข หรือแมวกัดหรือข่วน เบื้องต้นควรล้างบาดแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดให้ลึกถึงก้นแผล และเช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค (เบตาดีน) แล้วรีบไปพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเรื่องการฉีดวัคซีนและการป้องกันบาดทะยัก พร้อมทั้งติดตามดูอาการสัตว์ที่กัดต่อไปนานอย่างน้อย 7-10 วัน
               


บทความจาก 
สัตวแพทย์หญิงอาภาพร เจตนาวณิชย์


ปรึกษาเรื่องพิษสุนัขบ้าได้ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ
โรงพยาบาลเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา โทร. 089-2448865
คลินิกเพื่อนสัตว์เลี้ยงศรีราชา สาขาหนองยายบู่ ( เปิด 9.00-21.00 น.) โทร. 092-0124002

คลินิกเพื่อนสัตว์เลี้ยงบางแสน  (เปิด9.00-20.00น.) โทร.098-7165698



ติดตามข้อมูลข่าวสาร
Fanpage : petfriendsHospital
Line ID : @petfriends


E-mail : petfriends2010@hotmail.com
 1/16 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110